เคบับ หรือ กะบับ หรือ กาบับ เป็นอาหารในถิ่นอาหรับ ต้นกำเนิดจากประเทศตุรกี หมายถึง อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว ไก่ แกะ แพะ และผักต่างๆ เสียบไม้ย่างลักษณะคล้ายการทำบาร์บีคิว แต่จะมีเคบับอีกแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมและเห็นกันทั่วไปคือ Doner Kebab หรือจะเรียกว่าการทำบาร์บีคิวแบบหมุนก็ได้ เป็นการทำเคบับจำนวนมากควรหมักเนื้อทิ้งไว้ 1 คืน และเสียบเนื้อในเหล็ก และเสียบเนื้อในเหล็กแหลมซ้อนกันให้แน่นสังเกตให้เนื้อซ้อนติดกันโดยไม่มีช่องว่างดูเป็นเนื้อเดียวกัน
คงมีหลายต่อหลายคนรู้จักอาหารแสนอร่อยชนิดนี้ และได้เคยลิ้มรสกันมาบ้างแล้ว ว่าแต่เราทราบกันไหมครับว่าประวัติความเป็นมาของ เคบับ นั้นมีที่มาอย่างไร ? วันนี้ owenhillforsenate จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกันค่ะ
วิกิพีเดียย้อนที่มาของเคบับว่า มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณในศตวรรษที่ 8 เพราะมีหลักฐานเป็นหินที่ขุดพบซึ่งระบุถึงบาร์บีคิวที่ใช้ไม้เสียบ วางปิ้งบนเตาย่าง โดยใช้ถ่านและออกซิเจนทำให้สุก
บางตำราอ้างอิง นายอิบน์ บัตตุตา นักเดินทางชาวโมร็อกโก ที่เคยบันทึกไว้ว่าเคบับเป็นอาหารที่คิดค้นโดยทหารเปอร์เซียยุคกลางโดยใช้ ดาบย่างเนื้อในเตาอบแบบเปิดโล่ง เมนูนี้ยังเป็นที่นิยมและเสิร์ฟกันในกลุ่มราชนิกุลของอินเดีย ในช่วงสุลต่านเดลี ค.ศ.1206-1526 ซึ่งเป็นยุคที่มุสลิมมีอิทธิพลในอินเดีย ต่อมาเมนูนี้แพร่หลายไปยังประชาชนทั่วไปซึ่งนิยมรับประทานเคบับเป็นอาหารเช้าพร้อมกับแป้งนาน
บ้างก็ระบุว่า เคบับเป็นอาหารประจำเผ่าเติร์กสมัยที่ยังเร่ร่อนรอนแรมในทุ่งกว้าง โดยย่างเนื้อบนกองไฟ เรียกว่า เคบับ หรือ กะบับ ก็ได้ ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของอาหารย่างในแถบเมดิเตอร์เรเนียน อาหรับ และประเทศมุสลิมหลายแห่ง ต่อมากลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วยุโรป
เคบับปรุงได้หลายวิธี ได้แก่ แบบโดเนอร์ (Doner kebabs) ในภาษาตุรกี โดเนอร์ แปลว่าบาร์บีคิวแบบหมุน ทำให้เนื้อสุกโดยการหมุนเนื้อข้างกองไฟอย่างช้าๆ ให้ค่อยๆ สุกเกรียมจากด้านนอกไปสู่ด้านใน จะใช้เนื้อแกะ เนื้อไก่ เนื้อวัว ก็ได้ นำมาแล่บางแล้วเสียบกับแท่งเหล็กเผาไฟ
ว่ากันว่า เคบับแบบนี้กำเนิดที่เมืองเบอร์ซาของตุรกี ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยพ่อครัวชื่อ ฮาชิ อิสเคนเดอร์ ชาวตุรกีถือว่าเคบับเป็นอาหารประจำชาติ โดยนำเนื้อย่างมาเฉือนเป็นชิ้นๆ รับประทานพร้อมกับแผ่นแป้งพิต้าและผักสลัด ราดด้วยน้ำซอสสูตรตุรกี หรือนำเนื้อย่างมาวางทับบนแผ่นโรตีที่หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศก็ได้ แบบนี้จะเรียกว่า เบอร์ซาเคบับ
ส่วน เคบับที่ถูกปากชาวยุโรปมักจะเสิร์ฟพร้อมกับเฟรนช์ฟรายด์ หรือมันฝรั่งทอด อีกทั้งยังนำมาทำเป็นพิซซ่าตุรกีที่เรียกว่าเคบับพิซซ่าอีกด้วย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวยุโรป นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
เคบับอีกตำรับหนึ่งเรียกว่า ชิชเคบับ (Shish Kebabs) ภาษาตุรกี แปลว่า เนื้อก้อนเสียบไม้ จะใช้เนื้ออะไรก็ได้มาเสียบแท่งเหล็กแบนๆ และวางบนเตาย่างพร้อมผักและผลไม้ ถ้าเป็นต้นตำรับจริงๆ จะใช้มะเขือม่วง มะเขือเทศ พริกหยวก หอมใหญ่ และเห็ด กล่าวกันว่าชิชเคบับเกิดจากทหารเผ่าชาวเติร์กที่รุกเข้าไปสู่แคว้น อนาโตเลีย และใช้มีดดาบของตัวเองเอามาเสียบเนื้อแล้วย่างกิน ในภูมิภาคอเมริกาเหนือหากเอ่ยคำว่า “เคบับ” มักจะหมายถึง ชิชเคบับ
ส่วน ในจีน มณฑลซินเจียงซึ่งเป็นบ้านของชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม มีเคบับตามแบบฉบับของตัวเอง โดยนำเนื้อชิ้นเล็กๆ มาเสียบแท่งย่างหรือทอด เพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา เม็ดงาและพริกไทย เมนูยอดนิยมในถิ่นนี้คือเคบับเนื้อแกะ เนื้อวัว ไก่ อาหารทะเล
ช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวจีนอิสลามมักจะมอบลูกอมเคบับรสผลไม้ให้แก่กัน เป็นเคบับที่เคลือบด้วยน้ำตาลหนาๆ มีรสชาติต่างๆ เช่น กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ และผลไม้ประจำถิ่นของจีน
ลักษณะเหมือนเนื้อก้อนใหญ่ นำไปย่างในเตาย่างเคบับโดยเฉพาะให้แกนเหล็กที่เสียบเนื้อหมุนรอบตัวเองผ่านความร้อนจากเปลวไฟด้านข้าง เนื้อจะสุกเกรียมจากผิวด้านนอกสุด แล่เฉพาะเนื้อส่วนผิวที่สุกมารับประทานส่วนเนื้อด้านในที่เหลือจากการแล่ทำการย่างต่อจนสุกเกรียมจึงแล่ออกอีกครั้งทำเช่นนี้สลับกันไปจนกว่าเนื้อย่างสุกถึงแกนด้านในเหล็กเสียบ จะรับประทานกับขนมปังคล้ายฮอทดอก แฮมเบอร์เกอร์หรือแผ่นแป้งพิตต้าม้วนมีผักสลัด เนื้อเคบับ และซอสด้านใน
สนับสนุนโดย ebet88.vip