Wednesday, 3 April 2024

ซูชิ ชิ้นเล็กมากความอร่อย

04 Apr 2023
264

ปก ซูชิ ชิ้นเล็กมากความอร่อย

ต้นกำเนิดของซูชิ หลายๆคนคงอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าซูชินั้นมีที่มาจากประเทศแถวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้อย่างประเทศไทยและลาว แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ต้นกำเนิดของซูชิ นั้นมีความเป็นมาอย่างไร และในวันนี้ owenhillforsenate จะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักเกี่ยวกับซูชิอาหารประจำชาติของชาวญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกันว่ามันมีที่มาและที่ไปอย่างไรบ้าง

จุดเริ่มต้น และ ต้นกำเนิดของซูชิ

สมัยก่อนข้าวและปลาถือเป็นอาหารจานหลักโดยทั่วไปของคนญี่ปุ่นในยุคโบราณ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวและการจับปลาตามแม่น้ำและในนาข้าวมาทำเป็นอาหาร ซึ่งในสมัยก่อนนั้นเราคงทราบกันดีว่าการจะเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารเอาไว้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะในสมัยก่อนนั้นไม่มีทั้งตู้เย็นหรือเครื่องทำความเย็นเพื่อรักษาความสดใหม่ของปลาให้อยู่ได้นานๆเหมือนอย่างในสมัยนี้ อีกทั้งปัญหาทางด้านภูมิศาสตร์เกี่ยวกับฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงบ่อย อาจทำให้เกิดสภาวะแห้งแล้งและฝนตกหนัก ทำให้ไม่สามารถหาอาหารประเภทโปรตีนจำพวกเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลามารับประทานกันได้ตลอดทั้งปี และเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ ซูชิ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 700 โดยประมาณ โดยได้รับอิทธิพลมากจากอาหารหมักอย่าง “ปลาร้า” หรือ “ปลาส้ม” ที่ทำกันในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้ ทางฝั่งแม่น้ำโขงอย่างลาวและไทย รวมถึงทางตอนใต้ของประเทศจีน

ซูชิ-ซาซิมิ

โดยการทำ ซูชิ นั้นก็คือกระบวนการหมักชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการนำข้าวที่มีมาหมักกับปลาและเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งในกระบวนการทำซูชินั้นจะทำให้สารที่มีชื่อว่า แลกติก หรือแอซิดแบคทีเรียตามธรรมชาติในข้าวเจริญเติบโตและทำปฏิกิริยากับแป้งข้าวเปลี่ยนให้เป็นกรดแลกติก ซึ่งเจ้าแบททีเรียตัวนี้จะช่วยป้องกันการเน่าเปื่อยของเนื้อปลาและเนื้อสัตว์ได้ (คล้ายๆกับการทำนมเปรี้ยว) ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างแท้จริง และจุดประสงค์หลักๆในการทำซูชิขึ้นมานั้นก็เพื่อ เก็บรักษาและถนอมอาหาร ทำให้อาหารเป็นขนาดพอดีคำและสามารถพกพาไปเพื่อใช้เป็นเสบียงในการเดินทางได้อีกด้วย

ประเภทของซูชิ

ถึงคนส่วนใหญ่จะนิยมเรียกกันว่าซูชิแต่จริงๆแล้วซูชิไม่ได้มีแค่เเบบเดียวเท่านั้นแต่สามารถแบ่งออกได้ถึง 5 ประเภทดังนี้

ซูชิ-หลากหลาย

  1. นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi) หรือซูชิที่พบได้บ่อยในโรงแรมหรือภัตตาคารมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปทรงวงรี แล้ววางด้วยเนื้อปลาดิบ เนื้อวัว เนื้อหมึก หรือของคาวอื่น ๆ ไว้ข้างบน อาจจะเสริมรสหรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลหรือวาซาบิ ซึ่งถือได้ว่าเป็นซูชิที่คนส่วนใหญ่นิยมรัปประทานกันมากที่สุด
  2. มากิซูชิ (Maki Sushi) ซูชิแบบนี้ถือได้ว่าเป็นที่นิยมในตลาดระดับล่างหรือพูดง่ายๆก็คือซูชิทั่วๆไปที่มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต และ ตลาดนัด เนื่องจากตัววัตถุดิบที่นำมาทำมีราคาไม่สูงมาก และมีหลากหลายรูปแบบคนส่วนใหญ่จึงรู้จักกันดี โดยมีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน แบบม้วนข้าวไว้ข้างในและสาหร่ายห่ออยู่ข้างนอก แบบม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายจะอยู่ข้างในแทนส่วนข้าวอยู่ด้านนอก ห่อเป็นรูปกรวย
  3. ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดเรียงในรูปแบบที่คล้ายๆกับข้าวกล่อง โดยการนำเอา ปลาดิบ กุ้ง ปลาหมึก และผักชนิดต่างๆมาวางเรียงอยู่ด้านบนของข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
  4. โอชิซูชิ (Oshi Sushi) จากเมืองโอซาก้าหรือเรียกว่ารูปแบบคันไซนั่นเอง โดยจะมีรูปแบบการทำโดยการเอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวโดยวางเนื้อปลาเอาไว้ด้านบน และนำมาหั่นให้เป็นขนาดพอดีคำ
  5. อินะริ ซูชิ (Inari Sushi) เป็นซูชิประเภทหนึ่ง ที่ตัวข้าวและเนื้อสัตว์จะถูกห่ออยู่ในเต้าหู้มีลักษณะคล้ายกับไข่ยัดไส้ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักกันดีเท่าไหร่นัก เพราะไม่ค่อยมีคนนิยมทำมาขาย

สนับสนุนโดย ufa352.vip