Saturday, 6 April 2024

สรุปกลยุทธ์ ZARA ที่ทำให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าเบอร์ต้นๆ ของโลก

ปก แบรนด์ zara

สรุปกลยุทธ์ของซาร่าที่ทําให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าอันดับต้นๆของโลกแม้แทบไม่โฆษณา รู้หรือไม่ ว่าบุคคลที่รวยที่สุดในสเปน ชื่อว่า Amazon ortega ซึ่งเขาคนนี้ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า อินดิเทค และหลายๆคน ก็จะรู้จักบริษัทนี้ผ่านแบรนด์ที่ชื่อว่าซาร่านั่นเองที่น่าสนใจก็คือว่าซาร่าเพียงแบรนด์เดียว ยังสามารถทํารายได้ไปมากกว่า 530000 ล้านบาทภายในปี 2020 และก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 69 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดในบริษัทอินดิเทคมีกลยุทธ์อะไรที่ทําให้ประสบความสําเร็จ

Zara เป็น brand ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการไม่ทําการตลาด ซึ่งผู้ที่เป็นคนวางถ้าถามในเรื่องนี้ก็คือผู้ก่อตั้งอย่างคุณ โดยเขามองว่าวิธีการทําการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสื่อโฆษณาที่ดีที่สุด ก็คือการจัดหน้าร้านให้ดีเพื่อดึงดูดลูกค้าให้อยากเดินเข้ามาในร้านและที่สําคัญ ก็คือการผลิตเสื้อผ้าที่ทําให้ลูกค้าอยากใส่ แล้วนําออกมาโชว์ให้คนอื่นได้เห็นนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดที่สวยหรูเท่านั้น เพราะว่าถ้าหากเราไปดูจากสัดส่วนรายได้ในปี 2020 ที่ทั้งโลกกําลังเจอกับวิกฤติโรคระบาด จนให้หลายๆคน หันไปช็อปออนไลน์แทน แต่ว่าแบรนด์ของซาร่า รายได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ยังคงมาจากช่องทางออฟไลน์

เมื่อพูดถึงการจัดหน้าร้านไปแล้ว ก็คงจะขาดองค์ประกอบสําคัญอย่างเสื้อผ้าไม่ได้จึงหนึ่งในกลยุทธ์ที่ซาร่าเลือกใช้ ก็คือ scan city marketing หรือก็คือการผลิตสินค้าให้น้อยกว่าความต้องการในตลาด และยิ่งสินค้า ยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้คนอยากได้มากเท่านั้นที่น่าสนใจ ก็คือว่าแม้ว่าซาร่าจะมีการผลิตสินค้าจํานวนไม่มากในแต่ละคนแต่ว่าแบรนด์ จะเลือกหันไปให้ความสําคัญกับความถี่ของการปล่อยสินค้าใหม่มากกว่า โดยซาร่าเขาก็จะเน้นการเติมสินค้าใหม่เข้าในร้านทุกทุกอาทิตย์ ซึ่งการทําแบบนี้จะช่วยให้แบรนด์ไม่พลาด train สําคัญที่เกิดขึ้นในขณะนั้นแถมยังเป็นการเพิ่มความสดใหม่ให้กับแบรนด์ได้ด้วย เพราะเมื่อลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกครั้ง ก็จะได้พบกับสินค้าใหม่อยู่บ่อยๆ ซึ่งแตกต่างจากหลายหลายแบรนด์ที่ในแต่ละซีซั่น เขาก็จะปล่อยคอลเลกชันออกมาเพียงแค่ 1-2 คอลเลกชันเท่านั้น ในขณะเดียวกัน การผลิตสินค้าออกมาจํานวนน้อยๆ แต่ว่าปล่อยออกมาถี่ๆ ก็ยังช่วยให้แบรนด์ไม่ต้องฝากความหวังไว้กับคอลเลกชันเพียงคอลเลกชั่นเดียว และอาจจะขายไม่ออกเพราะว่าเราประเมินความต้องการในตลาดที่ผิดพลาดพอฟังแบบนี้แล้ว

สงสัยไหมว่าซาร่า เขาทํายังไงถึงจะสามารถปล่อยคอลเลกชันใหม่ออกมาถี่ๆได้ ทั้งๆที่ตัวเองก็มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลก คําตอบของเรื่องนี้ ก็เป็นเพราะว่าซาร่า มีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ในหลายโซนทั่วโลก โดยปัจจุบันอินดีเทค ได้ผลิตสินค้าผ่านโรงงานกว่า 8543 แห่งทั่วโลก ซึ่งหลักๆแล้วโรงงานก็จะตั้งอยู่ในยุโรป ซึ่งคิดเป็นกว่า 3720 แห่ง และในและในเอเชียกับประเทศใกล้เคียง จะมีทั้งหมด 3481 แห่ง และก็โรงงานในสหรัฐอีก 34 แห่งซึ่งการทําแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าซาร่า เขาต้องการทําให้โรงงานของเขาตั้งอยู่ใกล้กับสาขาในแต่ละประเทศนานๆ เพื่อย่นระยะเวลาในการซึ่งเรื่องนี้ ก็น่าจะทําให้ซาร่าได้เปรียบคู่ค้าปลีกรายอื่นๆที่ตั้งโรงงานอยู่ในที่ไกลๆ แล้วกว่าจะขนส่งจากซีกโลกหนึ่งไปอีกซีกโลกหนึ่งแต่ละทีก็น่าจะกินระยะเวลาพอสมควร.

ถัดมาที่อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือการออกแบบเสื้อผ้าให้เข้ากับอยู่ตลอด อย่างในอดีตซาร่าเขาจะเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ ฟาสต์ แฟชั่น ที่มีการดึงสไตล์จากรันเวย์ มาขายในร้านของตัวเองได้ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น หลังจากที่งานแฟชั่นโชว์จบในขณะที่แบรนด์อื่นๆ อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานถึงหกเดือนเลยทีเดียว แต่สําหรับในปัจจุบัน ที่โลกออนไลน์ เข้ามามีอิทธิพลกับความคิดของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นซาร่าเขาก็เลยปรับวิธีการคิด โดยการสังเกตเสื้อผ้าจากในโลกออนไลน์ แล้วก็มาเป็นแล้วก็มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้า และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ เสื้อผ้าเหล่านี้ก็จะถูกกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกในขณะเดียวกัน ดีไซน์เนอร์ของซาร่า ก็ยังมีการรวบรวมความคิดเห็นจากผู้จัดการร้านเก็บข้อมูลจากการค้นหาในเว็บไซต์ รวมไปถึงความต้องการต่างๆจากลูกค้า โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ จะถูกนํามาใช้เพื่อพัฒนาการออกแบบแล้วก็การผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดเพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะมีระบบการผลิตการขนส่งหรือกลยุทธ์ที่ดีแค่ไหน แต่หัวใจหลักที่มีผลต่อยอดขายจริงๆ ก็คือลูกค้า พนักงานขายที่ดีที่สุดก็คือลูกค้าที่จะช่วยบอกต่อหากพวกเขาประทับใจและนางแบบที่ดีที่สุด ก็คือลูกค้าที่สวมใส่เสื้อผ้าของซาร่าในชีวิตก็คือกลยุทธ์ของซาร่าที่เรานํามาสรุปให้ทุกคนฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสําหรับ

สนับสนุนโดย ufa4k.vip