Thursday, 28 March 2024

ความแตกต่างของระดับการคั่วของกาแฟ

18 Oct 2022
232

ปก ระดับการคั่วกาแฟ

เคยสงสัยไหม ? เวลาที่คุณไปซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วไปดูเชลฟ์กาแฟจะเห็นกาแฟที่มีหลากหลายการคั่ว ไม่ว่าจะเป็นคั่วอ่อน คั่วกลางหรือคั่วเข้ม หรือเวลาคุณไปสั่งกาแฟในร้านคาเฟ่ จะมีบาริสต้าคอยถามว่าชอบกาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้มหรือชอบรสชาติแบบไหนการคั่วกาแฟว่ารสชาติที่ได้จากการคั่วทั้ง 3 ระดับเป็นยังไงก่อนที่เราจะไปรู้จักกับระดับการคั่วกาแฟ อยากจะให้เพื่อนๆ ได้รู้อย่างหนึ่งก่อน ว่าเมล็ดกาแฟที่เราเห็นที่เป็นสีน้ำตาลหรือสีดําล้วนมาจากต้นกาแฟ ซึ่งจะมีเป็นเม็ดเชอร์รี่สีแดงแดง ที่อยู่เต็มต้นเลย ซึ่งกาแฟก็เป็นเหมือนผลไม้ชนิด 1 วิธี เราจะรอให้เมล็ดกาแฟสุกจนเม็ดแดงได้ที่ แล้วก็เก็บออกมาผ่านกระบวนการ Process ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปล้างเอาไปสีเปลือกออก ตากให้แห้งสีกะลา และสิ่งที่เราเห็นจะเป็นเมล็ดดิบหรือเราจะเรียกว่า สารกาแฟนั่นเองซึ่งสารกาแฟในขั้นตอนนี้ จะมีความชื้นสูงมากแล้วก็จะมีลักษณะทางกายภาพสีเขียวจะมีกลิ่นที่ค่อนข้างเหม็นเขียวเราจะเอาตัวนี้มาคั่วโดยใช้ความร้อนครับในอุณหภูมิที่สม่ำเสมอ

ซึ่งรสชาติของกาแฟจะเปลี่ยนไปตามลักษณะการคั่วเรามาเริ่มจากแรกก็คือการคั่วอ่อนครับการคั่วอ่อนเมล็ดกาแฟจะยังโดนความร้อนไม่เยอะฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพก็จะยังเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ รสชาติที่ได้ก็จะมีความเปรี้ยว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวกาแฟและก็จะมีกลิ่นหอมเป็นเหมือนดอกไม้ กลิ่นเหมือนผลไม้ แล้วก็มีความเป็นซึ่งรสชาติของกาแฟอ่อน ก็จะมีความหวานฉ่ำ ความเปรี้ยว แล้วก็ความหอมโดดเด่นที่เป็นเหมือนกับผลไม้นั่นและแต่ละแหล่งปลูก ก็จะมีกลิ่น ของผลไม้หรือกลิ่นดอกไม้ที่แตกต่างกันเอกลักษณ์ของสายพันธุ์กาแฟ ตัวกาแฟคั่วอ่อน เราจะนิยมเอามาทําเป็นกาแฟร้อน ซึ่งจะนิยมกินแบบกาแฟดําไม่ผสมนม อาจจะกินเป็นเอสเปรสโซ หรือเป็นเหมือนอเมริกาโน่ หรือจะเอาไปทําเป็นพวกดิฟก็ได้ หรือเป็นกาแฟในสายสโลว์บาร์ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกชุ่มคอ แล้วก็มีความนุ่มนั่นเอง

ระดับการขั้วที่สอง จะเป็นระดับการคั่วกลางหรือว่า medium rose นั่นเอง ขั้วกลางเป็นกาแฟที่นิยมมากในประเทศไทย และในทั่วโลกเป็นสากลเลยเนื่องจากขั้วกลางก็จะเป็นกาแฟที่โดนการคั่วที่อุณหภูมิสูงขึ้นไปเวลานานขึ้น ทําให้เมล็ดกาแฟเปลี่ยนสีกลายเป็นสีน้ำตาล เริ่มเข้มขึ้นเล็กน้อย มวลน้ำตาล ตัวความเปรี้ยว ความหวาน สิ่งที่ทดแทนมา จากที่ความเปรี้ยวแล้วก็ความหอมของผลไม้ออกไปจะกลายเป็นกลิ่นที่เหมือนกับคาราเมลและก็เป็นกลิ่นถั่วเข้ามานั่นเอง ซึ่งกาแฟคั่วกลางก็จะเหมาะสําหรับเอามาทํากาแฟที่เป็นกาแฟร้อนผสมนม เช่น คาปูชิโน่ร้อน ลาเต้ร้อน และยังนิยมเอามาทําเป็นกาแฟเย็น ที่ทานไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็นแบบใส่นมหรือไม่ใส่นม ซึ่งตัวกาแฟคั่วกลางก็จะมีที่เข้มข้นขึ้นมา เวลาที่กินแล้วจะรู้สึกถึงความเข้มข้น ของบอดี้กาแฟที่หนักแน่นขึ้นและก็ความเปรี้ยวที่หายไปจึงเป็นกาแฟที่ต้องบอกว่าเป็นแมสก์ที่คนนิยมทาน ส่วนใหญ่มากที่สุดนั่นเอง

โปรไฟล์สุดท้าย คือโปรไฟล์กาแฟคั่วเข้ม หรือว่าซึ่งเป็นกาแฟสายที่ต้องบอกว่าคนชอบกาแฟเย็น หรือกาแฟผสมนมข้นหวานชื่นชอบเป็นพิเศษ และที่สําคัญเอามาทําเป็นเอสเปรสโซ่เย็นอร่อยมาก เนื่องจากกาแฟตัวคั่วเข้มผ่านการคั่วที่นานขึ้น สีก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มกึ่งดํา ตัวเซลลูโลส ในเมล็ดกาแฟประกอบไปด้วยกลูโคสมากกว่า 50000 โมเลกุลก็คือน้ำตาลนั่นเองก็จะระเหยออกมากลายเป็นน้ำมันหรือว่าออยล์ที่เคลือบผิวเมล็ดกาแฟไว้กาแฟคั่วเข้มในขั้นตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นความเปรี้ยวก็จะหายไปโดยสิ้นเชิงความหอมในลักษณะแบบเหมือนฟรุตตี้ หรือฟลอรัล ก็จะหายไปแล้วที่ได้มาก็จะเป็นกลิ่นสโมคหรือกลิ่นที่คล้ายๆ แบบติดเหม็นไหม้นิดนึง กลิ่นเหมือนถั่วเหมือนคาราเมล ซึ่งตัวนี้แหละครับที่เวลาเอาไปทํากาแฟผสมนม จะมีความอร่อยมากๆนั่นเอง

สรุปทั้งสามกาแฟ กาแฟคั่วอ่อ จะเหมาะกับการทานแบบกาแฟร้อนหรือไม่ใส่นมนั่นเอง เป็นอเมริกาโน่หรือจะเอาไปใช้กับพวกกลุ่มพวกดริฟต์ พวกไซฟอน ซึ่งจะมีความหวานฉ่ำ ความเปรี้ยว แล้วก็ความสดชื่นด้วย ส่วนกาแฟคั่วกลางเป็นที่คนนิยมทาน ความความเปรี้ยว จะถูกหายออกไปแต่ไม่หายทั้งหมด จะมีกลิ่นถั่วแล้วก็กลิ่นคาราเมลเข้ามาซึ่งก็ทานได้ทั้งร้อนและเย็นและกาแฟคั่วเข้มก็เป็นกาแฟที่นิยมมาก เนื่องจากความหอม แบบสโมคบอดี้กาแฟแล้วก็สีกาแฟที่ชัด ความเปรี้ยวหายไปแล้ว แล้วก็จะมีความหอม เหมือนกับถั่วเหมือนคาราเมลแล้วก็ติดสโมคเหมาะสําหรับเอาไปทํากาแฟเย็น เอาไปทําเอสเปรสโซ่เย็นกันเยอะที่สุด

สนับสนุนโดย ufa6556.pro