การทำเล็บเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลเรื่องความสวยความงามที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะทั้งให้ความสวยงามและช่วยเสริมบุคลิกความมั่นใจให้กับตนเองได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการทำเล็บแบบง่ายที่สุดและใช้เวลาไม่นานก็คือ “การทาเล็บ” ซึ่งใครที่ไม่มีเวลาก็สามารถทำด้วยตนเองได้โดยไม่ต้องไปเข้าร้าน โดยการทาเล็บนั้นจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับสายแฟชั่นและช่วยลดปัญหาคนที่มีเล็บไม่สวยงามได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานต้องเลือกยาทาเล็บที่มีคุณภาพเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพเล็บที่ตามมา
วิธีการเลือกยาทาเล็บ
แน่นอนว่า เวลาเลือกซื้อยาทาเล็บ ทุกคนคงจะเลือกซื้อตามสีที่ชอบเป็นหลักใช่ไหม แต่นอกจากเรื่องสีแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรคำนึงอีกมากมาย เพื่อให้ได้ยาทาเล็บที่เข้ากับสไตล์ของเรามากที่สุด การเลือกสีทาเล็บให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง นอกจากจะขับผิวที่มือเราให้ดูโดดเด่นแล้ว ยังส่งเสริมบุคลิกภาพของเราอีกด้วย
– สำหรับสาวที่มีผิวขาวหรือขาวอมชมพู นอกจากจะสามารถเลือกโทนสีได้เกือบทุกโทนแล้ว ยังสามารถเลือกสีให้ผิวดูโดดเด่นเพิ่มขึ้นได้อีก เช่น โทนสีนู้ด, สีชมพู, สีชมพูอมน้ำตาล, สีพาสเทล หรือจะโทนเข้มอย่างสีน้ำเงินและสีเขียว ซึ่งจะช่วยให้มือดูขาวขึ้น และยังเปลี่ยนลุคได้อีกด้วย แต่ไม่ควรทาสีเบจหรือสีขาว เพราะจะทำให้กลืนกับผิว ดูซีดจนเกินไป
– สำหรับสาวผิวขาวเหลือง อย่างสาวเอเชีย แนะนำให้ทาสีโทนร้อน เช่น สีชมพูอมส้ม, สีแดงสด, สีน้ำตาลทองส่วาง หรือสีพาสเทลโทนสว่าง
– สำหรับสาวผิวแทน แนะนำให้ทาสีโทนอุ่นหรือสีเอิร์ธโทน จะช่วยขับผิวให้โดนเด่นมากยิ่งขึ้น เช่น สีช็อกโกแลต, สีนู้ดน้ำตาลอมทอง และสีแดงเลือดหมู แต่ไม่ควรทาสีโทนพาสเทลหรือสีชมพูสด เพราะอาจจะทำให้ผิวดูยิ่งคล้ำ
เลือกยาทาเล็บที่แห้งไว
ปกติยาทาเล็บจะต้องใช้เวลาในการ Set ตัวและแห้ง โดยต้องทาแต่ละชั้นให้บางและเป่าให้แห้งทีละชั้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้แห้งไม่หมดและหลุดออกง่าย จึงเหมาะกับคนที่มีเวลาพอสมควร แต่ในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ของหลายแบรนด์ที่ทาเพียงไม่กี่วินาทีก็แห้งแล้ว จึงเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาและรีบใช้งาน
นอกจากสีที่แห้งไวแล้ว ยังมีตัวช่วยอื่น ๆ อีก อย่างน้ำยา Dry Drop ที่ช่วยทำให้สีแห้งเร็ว เพียงแค่หยดหลังทาสีเสร็จ ก็ปล่อยให้น้ำยาทำหน้าที่และรอให้แห้งเท่านั้น หรือจะเป็นวิธีการง่าย ๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น หลังทาเล็บเสร็จ ให้นำมือแช่น้ำเย็น (น้ำผสมน้ำแข็ง) ประมาน 3 นาที จะช่วยให้สีแข็งตัวเร็ว แต่ต้องมั่นใจว่าทาสีเรียบเนียนแล้ว ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องลบและทาใหม่
เลือกตามประเภทของเนื้อยาทาเล็บ
ยาทาเล็บสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะพิเศษของเนื้อสี เช่น เนื้อสีใส เนื้อผสมกากเพชร และเนื้อประกายมุก และอีกมากมาย ซึ่งจะช่วยสร้างอิมเมจที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความเหมาะสม และความชอบของแต่ละคน
เลือกยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมีอันตราย
ปัจจุบันยาทาเล็บหลายแบรนด์เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของผู้ใช้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น คนท้องและเด็ก จึงออกผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมีมากขึ้น ซึ่งสารหลัก ๆ ที่เป็นอันตรายในยาทาเล็บจะมี 3 ชนิด คือ
โทลูอีน (Toluene) เป็นตัวละลายยาทาเล็บ ช่วยให้ยาทาเล็บมีเนื้อสัมผัสเรียบเนียน พบได้ในสีทาบ้าน หากสูดดมเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) คือสารกันเสียที่เพิ่มความคงทนของเล็บ โดยจะทำให้ยาทาเล็บแข็งตัวและยึดเกาะกับเล็บได้ดี ซึ่งสารตัวนี้จะเป็นสารก่อมะเร็ง หากสัมผัสโดนผิวหนังเป็นประจำ จะทำให้เกิดผื่นคัน การอักเสบ และผิวไหม้ได้
ไดบิวทิลฟทาเลต (Dibutyl phthalate) เป็นสารที่พบในพลาสติก สีและยาฆ่าแมลง โดยเป็นสารที่ช่วยให้ยาทาเล็บติดทนนาน หากสูดดมเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลต่อฮอร์โมนและระบบสืบพันธุ์
สนับสนุนโดย ufa4k.vip