Wednesday, 3 April 2024

ผักสุก VS ผักดิบ กินแบบไหนได้ประโยชน์มากกว่ากัน.

ผักสุก VS ผักดิบ กินแบบไหนได้ประโยชน์มากกว่ากัน.

หลายๆ คนไม่ได้สนใจว่าควรจะเลือกรับประทานผักสุกหรือผักดิบดี แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถสูญเสียสารอาหารในผักได้ ถ้าเราเลือกการปรุงแบบผิดวิธี เราต่างก็รู้ว่าการกินผักนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่รู้หรือไม่หากคุณเลือกการปรุงที่ถูกวิธี ผักจะได้สารอาหารที่เป็นประโยชน์มากขึ้น เราจะมาแนะนำว่าผักยอดฮิตควรกินสุกหรือดิบ ได้แก่ มะเขือเทศ แครอท  พริก  หัวหอม  และผักตระกูลกะหล่ำ  พร้อมสาเหตุทำไมถึงต้องกินสุกหรือดิบ ถึงจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน

มะเขือเทศ หลายๆคนอาจจะคิดว่ากินดิบก็ได้หรือกินสุกก็ได้แต่จริงๆแล้วการรับประทานแบบสุกจะทําให้เราได้รับสารอาหารที่สําคัญในตัวมะเขือเทศก็คือไลโคปีน ไลโคปีนเมื่อผ่านความร้อนผนังเซลล์จะถูกทําลายรวมทั้ง มีการเปลี่ยนแปลงของไลโคปีนในรูปที่ดูดซึมได้ง่ายมากขึ้น อย่างเช่น มะเขือเทศดิบ จะมีไลโคปีนสามถึงเจ็ดมิลลิกรัมต่อหนึ่งร้อยกรัม แต่เมื่อผ่านความร้อนแล้ว จะมีไลโคปีนเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไลโคปีนจะมีส่วนสําคัญในการป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และช่วยดูแลหัวใจของเรา

 แครอท เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีน มากในระดับต้นๆ ของผัก สีส้ม สีเหลือง คือให้เราได้รับประโยชน์จากเบต้าแคโรทีนอย่างเต็มที่ เราควรจะรับประทานแครอทในรูปแบบแครอทสุก โดยเอาไปผ่านความร้อน ความร้อนจะทําลายผนังเซลล์ของแครอท ทําให้การดูดซึมของร่างกายเป็นไปได้ดีมากขึ้นตัวแครอทสุกจะมีปริมาณเบต้าแคโรทีนเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเบต้าแคโรทีนจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างต่างที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายได้

พริก ต่างๆเราควรจะรับประทานดิบเพราะพริกอุดมไปด้วยสารอาหารประเภทวิตามินซีสูงซึ่งวิตามินซีจะเสื่อมสลายง่ายเมื่อโดนความร้อนปริมาณวิตามินซีในหนึ่งร้อยกรัมสําหรับพริกหวานจะมีวิตามินซี 70 มิลลิกรัม พริกหยวกจะมีวิตามินซี 50 มิลลิกรัม พริกขี้หนูจะมีวิตามินซี 40 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีจะมีประโยชน์ในการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน จะทําให้ผิวหนังเราดูยืดหยุ่น และทําให้ผิวหนังเราสดใสมากขึ้น

ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี และคะน้า เราควรจะรับประทานแบบสุก เพราะว่าถ้าเรารับประทานแบบดิบ ทําให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร สําหรับใครที่มีปัญหาการย่อยอาหารก็ควรจะเปลี่ยนมารับประทานแบบสุกจะเหมาะสมที่สุด สําหรับผู้ที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์หรือการทํางานของต่อมไทรอยด์บกพร่อง ผักต้นทุนกะหล่ําจะมีสารพวกกลอยตัวพวกไกลโตรเจนที่ขัดขวางกัน เอาไอโอดีนไปสร้างไทรอยด์ ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์ก็ควรจะรับประทานผักกลุ่มนี้น่ะ สักแบบสุกเช่นกัน ผักตระกูลกะหล่ำมีประโยชน์คือ มีใยอาหารที่สูง ก็จะช่วยทําให้ระบบขับถ่ายทํางานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีสารสําคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบซึ่งจะป้องกันเซลล์มะเร็งในร่างกายได้

หัวหอม เราควรจะรับประทานแบบดิบ เพราะว่าสารอาหารต่างต่างอาจจะสูญเสียได้เมื่อโดนความร้อนอย่างเช่นเอนไซม์ วิตามินที่พบมาก วิตามินบีกับซีอาจจะเสื่อมเสียได้เมื่อโดนความร้อน ซึ่งหัวหอมก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเช่นวิตามินบีจะช่วยในเรื่องการเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานให้กับร่างกาย วิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิต้านทานแล้วก็เสริมสร้างโครงสร้างผิวหนังให้แข็งแรงอีกด้วย เพาะผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในทุกๆมื้อ เราควรจะมีผักอย่างน้อย 1-2 เพื่อให้เรามีสมดุลในการรับประทานอาหารได้ดีมากขึ้น

สนับสนุนโดย sacasino.win