พูดถึงลำไยของไทยเราตอนนี้ เป็นที่โด่งดังมากในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เช่นเดียวกับทุเรียน เพราะเม็ดโต และอร่อย จนชาวสิงคโปร์ ตั้งชื่อผลไม้ไทยเป็นสิงคโปร์ไปหมด เช่น ทุเรียนสิงคโปร์ ลำไยสิงคโปร์ ฯลฯ
ลำไย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Euphoria Longan (Lour.) Steud. วงศ์ Sapindaceae. จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่าชาวจีนทางใต้รู้จักปลูกลำไยมาตั้งแต่สมัย ฮั่นตะวันตก (หรือประมาณ 2 พันกว่าปีมาแล้ว) ต่อมาในราวศตวรรษที่ 18 ลำไยจากจีนได้แพร่ไปยังประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย เวียดนาม ไทย เป็นต้น ทำให้ประเทศเหล่านี้เริ่มมีการปลูกลำไยกัน
owenhillforsenate ไม่รอช้า บอกต่อถึง สรรพคุณ ประโยชน์ของลำไย ผลไม้รสหวานแต่ข้อดีเพียบ! ลำไย ผลไม้ไทยที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีเปลือกสีน้ำตาลอ่อน เนื้อขาวอมชมพูหรืออมเหลือง รสหวาน หอม อร่อยที่ใครก็ชอบ แถมคุณค่าทางโภชนาการเพียบ ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินต่างๆ มากมาย ถ้ากินในปริมาณที่พอเหมาะ รับรองดีต่อร่างกายแน่นอน ว่าแต่ ลำไย จะมีสรรพคุณอะไรที่ทุกคนควรรู้บ้าง
สรรพคุณ
– ใบ มีคุณสมบัติเป็นกลาง รสหวาน จืด สรรพคุณ แก้หวัด มาลาเรีย ริดสีดวงทวาร
– เนื้อ มีคุณสมบัติร้อน รสหวาน สรรพคุณ แก้ผอมแห้งแรงน้อย นอนไม่หลับ ขี้ลืม ใจสั่น บำรุงร่างกาย
– เปลือก มีคุณสมบัติร้อน รสหวาน แก้มึนหัว ทำให้ตาสว่าง
– ดอก สรรพคุณ ขับนิ่ว
– เมล็ด รสฝาด สรรพคุณ ห้ามเลือด แก้ปวด รักษาเกลื้อน
ประโยชน์ของการกินลำไย
– มีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง ยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็ง
– ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อยีสต์
– ต้านการเป็นพิษต่อตับ
– ลดความวิตกกังวล ปกป้องเซลล์ประสาท ปกป้องสมอง
– ลดความเหนื่อยล้า
– ต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบซี และปรับระบบภูมิคุ้มกัน
– ช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะอาการทำงานได้ดี
– มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
– เพิ่มแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ลดแบคทีเรียไม่ดี
– ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในกระเพาะอาหารและลำไส้
– ช่วยให้เจริญอาหาร
– บำรุงตา และบำรุงหัวใจ เพราะมีแร่ธาตุ วิตามิน
– มีวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
– ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน ทำให้ผิวพรรณดี
– มีวิตามินบี 12 เยอะ ช่วยบำรุงสมอง รักษาอาการเครียด
– ช่วยรักษาอาการอัลไซเมอร์และขี้หลงขี้ลืมได้
– ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและการดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น
– ป้องกันโรคโลหิตจาง
– เป็นผลไม้ที่ให้พลังงาน กินแล้วจะรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ทันที
ข้อควรระวังของ การกินลำไย
เนื่องจากลำไยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ดังนั้นเราจึงควรกินลำไยในปริมาณที่พอเหมาะและควบคู่ไปกับผลไม้อื่นด้วย โดยเราควรกินประมาณ 6-10 ผลต่อวัน แต่หากเป็นลำไยแห้งควรกินแค่ 2-3 เม็ด เพราะลำไยแห้งมีน้ำตาลสูงกว่า นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเสีย เป็นหวัด และเจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการกินลำไย
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเสีย เป็นหวัด และเจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการกินลำไยด้วย เพราะถึงลำไยจะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่ก็จัดเป็นผลไม้รสหวานจัด เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง และจัดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน หากกินมากไปอาจส่งผลไม่ดีต่ออาการป่วยที่เป็นอยู่ ทำให้เจ็บคอหรือเป็นร้อนในได้
กินลำไยแล้วร้อนใน แก้อย่างไร ?
ลำไยเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เมื่อกินเข้าไปมากจะทำให้เกิดร้อนใน มีวิธีแก้คือการดื่มน้ำเปล่าตามให้มากๆ หลังกิน หรือดื่มน้ำเกลือ (น้ำเปล่า 1 แก้ว ผสมเกลือ1/2 ช้อนชา) น้ำสมุุนไพร หรือจะกินผัก ผลไม้สดที่มีน้ำเยอะตามลงไปก็ได้เช่นกัน หากอยากกินผลไม้ดับฤทธิ์ร้อนของลำไย ควรเป็นมังคุด
สนับสนุนโดย ivip9.win