โรคในหน้าร้อน แม้ประเทศไทยจะเป็นเมืองร้อน เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับอากาศเกิน 37 องศา ขึ้นไป แต่ก็ใช่ว่าชินกับอากาศแล้วจะปล่อยใจปล่อยตัวตามสบาย จนไม่ระวังอะไรเลย กับสารพัดโรคที่จะเกิดขึ้นและระบาดมากๆในช่วงหน้าร้อนนี้ เพราะโรคต่าง ๆ ก็มีการพัฒนาหรือกลายพันธุ์ได้จนมีความยากมากขึ้นในการรักษา ดังนั้น owenhillforsenate คิดว่าดีที่สุดก็คือการป้องกันไว้ก่อนดีกว่า อย่าชะล่าใจจนเป็นโรคต่างๆแล้วมารักษาทีหลังนั้น ทั้งเสียเวลาและเสียเงิน เสียสุขภาพกาย สุขภาพใจอีกด้วย มาดูกันว่า มีโรคอะไรที่จะมากับหน้าร้อนกันบ้าง ระวังไว้ก็ดีไม่น้อย
- โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)
เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปโตซัว พยาธิ ทำให้มีการถ่ายอุจจาระติดต่อโดยการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ มักพบในอาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ ซึ่งมีอยู่ทั้งในเนื้อสัตว์ ไข่ รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเล นมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรืออาหารที่ปรุงทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งคนที่ได้รับเชื้อเข้าไปมักมีไข้ ปวดท้อง ซึ่งเชื้อที่ได้รับสามารถทำให้เกิดการอักเสบที่ลำไส้ได้ จึงทำให้มีอาการปวดท้อง อุจจาระร่วง หรือการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่น เช่น ข้อกระดูก ถุงน้ำดี หัวใจ ปอด ไต เยื่อหุ้มสมอง ไปจนถึงติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งหากเกิดในทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ จะมีโอกาสทำให้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยค่ะ ดังนั้นควรเลือกทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก สดใหม่ ไม่ค้างคืน โดยเฉพาะอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบจะบูดเสียง่าย ไม่กินอาหารสุกๆดิบๆ มีแมลงวันตอม และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
- โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)
ติดต่อโดยการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค มักพบในอาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ ซึ่งมีอยู่ทั้งในเนื้อสัตว์ ไข่ รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเล นมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรืออาหารที่ปรุงทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งคนที่ได้รับเชื้อเข้าไปมักมีไข้ ปวดท้อง ซึ่งเชื้อที่ได้รับสามารถทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะอาหารและลำไส้ได้ จึงทำให้มีอาการปวดท้อง ปวดเมื่อย คลื่นไส้อาเจียน อุจจาระร่วง หรือการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่น ไปจนถึงติดเชื้อในกระแสเลือดได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดในทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ซึ่งภูมิต้านทานโรคลดลงจะมีโอกาสทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ อนึ่งการรักษาหลักคือ การรักษาแบบประคับประคอง ยาฆ่าเชื้ออาจพิจารณาให้ในการติดเชื้อบางกลุ่มเท่านั้น และไม่แนะนำให้ใช้ยาหยุดถ่ายเอง เว้นแต่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์
- โรคบิด
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Shigella (บิดไม่มีตัว) หรืออะมีบา (บิดมีตัว) ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการรับประทานอาหาร ผักดิบ รวมถึงน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค การติดเชื้อสามารถทำให้เกิดอาการไข้ ปวดท้องบิด ปวดเบ่งถ่ายไม่สุด ถ่ายอุจจาระบ่อย และอาจทำให้อุจจาระมีมูกหรือมูกปนเลือดได้อีกด้วย
- อหิวาตกโรค (Cholera)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae ที่ลำใส้เล็ก ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อจากอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ ซึ่งหากติดเชื้อโรคนี้จะทำให้เราถ่ายอุจจาระเป็นน้ำคราวละมากๆ โดยอาจไม่มีอาการปวดท้อง สามารถก่อให้เกิดูอาการขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว เช่น กระหายน้ำ อ่อนเพลีย ปัสสาวะออกน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะช็อก หมดสติจากการเสียน้ำ และในบางรายที่มีอาการรุนแรงมากๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน
การดูแลเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยถ่ายเหลวเฉียบพลัน ควรชงผงน้ำตาลเกลือแร่ดื่มชดเชยให้ทันกับสารน้ำที่สูญเสียไป หากอาการไม่ดีขึ้น หรือผู้ป่วยไม่สามารถดื่มสารน้ำชดเชยได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินแนวทางการรักษาต่อไป
- โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (Rabies)
ส่วนใหญ่มักเกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นพาหะนำโรคมาสู่เรานั่นเองค่ะ ซึ่งมักจะพบเชื้อจากสุนัขและแมวนี่หล่ะค่ะ โดยสามารถติดต่อได้จากทั้งการโดนกัด หรือถูกเลียบริเวณที่มีแผลถลอก หรือแม้แต่น้ำลายสัตว์ที่มีเชื้อเข้าตา ปาก จมูก อีกด้วยค่ะ ซึ่งหากถูกกัดให้รีบล้างแผลด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง แล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันและต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบเพื่อเข้าควบคุมโรคในพื้นที่ทันทีค่ะ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยจะมีอาการภายใน 15-60 วัน ซึ่งบางรายอาจใช้เวลานานเป็นปีเลยค่ะ และเนื่องจากปัจจุบันโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มียารักษา จึงทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 2-7 วันหลังแสดงอาการ
จะเห็นได้ว่าเกือบทั้ง 5 โรคที่ต้องระมัดระวังในซัมเมอร์นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นโรคติดต่อที่สามารถติดต่อผ่านการรับประทานอาหารและน้ำดื่มทั้งนั้นเลย ยิ่งพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาดแล้ว ยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ จึงขอเตือนให้ระมัดระวังความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มเป็นพิเศษ
สนับสนุนโดย baccarat1688.vip