ถ้าแปลความหมายกันแบบตรงๆ “Chef’s Table” คงแปลได้ว่า “โต๊ะของเชฟ” ซึ่งก็ไม่ผิดนัก แต่ต้องบอกว่าเราไม่ได้หมายถึงโต๊ะของเชฟที่ตั้งอยู่ในห้องครัวเท่านั้น หากการพูดถึงเชฟเทเบิลในปัจจุบันคือการกินอาหารที่เสิร์ฟเมนูโดยเชฟเป็นผู้รังสรรค์ให้ลูกค้าโดยเฉพาะ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “อาหารแบบตามใจเชฟ” ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการกินอาหารที่กำลังมาแรงในบ้านเราขณะนี้
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้วในยุโรป ร้านอาหารมักจะเปิดห้องครัวให้เชฟและพนักงานในร้านกินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานหนักมาตลอดวัน และเพื่อเพิ่มพลังแรงกายแรงใจในการทำงานสำหรับการเสิร์ฟอาหารมื้อค่ำต่อไป จากนั้นความนิยมของการบริการ “โต๊ะของเชฟ” สุดพิเศษนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงยุคคริสต์ศตวรรษที่ 70-80 โรงแรมระดับ 5 ดาวในสหรัฐอเมริการิเริ่มธรรมเนียมเชิญเหล่าเซเลบริตี ดารา และนักการเมืองมาชิมอาหารที่โต๊ะในห้องครัวเพื่อแนะนำเชฟหรือเมนูสุดพิเศษ เรียกได้ว่า ผู้มารับประทานอาหารแบบ เชฟส์เทเบิล จะได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงอาหารและเห็นความสดใหม่ของวัตถุดิบ นับเป็นศิลปะของการรับประทานอาหารอีกแบบหนึ่งที่ทุกคนควรได้สัมผัส
ผู้ที่ทำให้การกินแบบเชฟเทเบิลเป็นที่รู้จักไปทั่วอเมริกาคือเชฟชาร์ลี ทรอตเตอร์ เจ้าของร้าน Charlie Trotter’s ในชิคาโก ซึ่งเริ่มให้บริการเสิร์ฟอาหารแบบเป็นส่วนตัวในห้องครัวของร้านในปี ค.ศ. 1987 โดยเริ่มต้นด้วยเมนูเล็กๆ จำนวน 6-12 คอร์สและต้องจองล่วงหน้า ซึ่งบางครั้งนานหลายสัปดาห์และมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 100-150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อคน ส่วนใหญ่ลูกค้าในยุคนั้นจึงล้วนเป็นบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยหรือมีหน้ามีตาในสังคม
แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในยุคปัจจุบัน รวมทั้งการแข่งขันในแวดวงธุรกิจร้านอาหารที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เชฟเทเบิลจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโรงแรมหรูหรา หรือต้องปรุงโดยเชฟระดับมิชลินสตาร์เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์การกินอาหารยอดนิยมที่เข้าถึงผู้คนทั่วไปมากขึ้น และมีเชฟที่ให้ความสนใจเปิดร้านอาหารสไตล์นี้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีของเหล่านักกินอย่างเราๆ ที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารมื้ออร่อยสุดพิเศษได้ง่ายและหลากหลาย ตั้งแต่อาหารไทย ตะวันตก ไปจนถึงเมนูแปลกใหม่สุดโมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์ต่าง
และแน่นอน อิมแพ็คของเราซึ่งมุ่งมั่นในด้านการขยายธุรกิจอาหารก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอ “เชฟส์เทเบิล” ในแบบฉบับ IMPACT Catering ด้วยการจัดเลี้ยงแบบ เชฟส์เทเบิลโต๊ะจีน แบบเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้านคุณ ในคอนเส็ปต์ “โต๊ะจีนปรุงที่บ้าน” ซึ่งเมนูอาหารของโต๊ะจีนนี้ผ่านการรังสรรค์จากทีมเชฟคุณภาพของร้าน ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ที่จะยกทีมไปปรุงและเสิร์ฟอาหารจีนเลิศรส ถึงที่บ้านของลูกค้า ด้วยสูตรต้นตำรับฮ่องกงแท้ ๆ แถมไม่คิดค่าขนส่งใด ๆ
ศิลปะในการรับประทานอาหารนั้นมีด้วยกันหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ โอมากาเสะ ที่เชฟจะเลือกทุกอย่างให้เรา หรือจะเป็นการเสิร์ฟอาหารแบบ a la carte ที่เสิร์ฟเป็นคอร์สตามเมนูที่เราสั่งเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์แบบไหนก็ล้วนแต่สร้างสรรค์มาให้ผู้รับประทาน ได้สัมผัสเรื่องราวของรสชาติอาหารแบบที่ดีที่สุด
Chef’s table ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปะในการรับประทานอาหารในรูปแบบใหม่ โดยเมนูต่าง ๆ จะสร้างสรรค์โดย เชฟ Executive ผู้ที่จะเล่าเรื่องราวผ่านมื้ออาหารมื้อนั้น และแขกที่จะเข้ามานั่งรับประทานจะถูกจำกัดแค่เพียงหนึ่งโต๊ะเท่านั้น นอกจากนั้นในบางร้านอาหาร ยังจัดโต๊ะหันเข้าหาครัว หรือ เชฟจะออกมาปรุงอาหารตรงหน้า เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน ความพิเศษของ Chef’s table นั้นก็คือผู้รับประทานอาหารจะได้สัมผัสอาหาร ที่เลือกสรรค์โดยเชฟมาอย่างดี เรียกได้ว่า ไม่ต้องถามเด็กเสิร์ฟเลยว่าร้านนี้อะไรอร่อย เพราะมีถึง เชฟ Executive ที่คิดเมนูมาให้เราแล้วเป็นอย่างดี
สนับสนุนโดย ufa6556.pro