ญี่ปุ่นเปิดรับการค้าขายแบบเสรีกับตะวันตกและปฏิรูปประเทศในยุคเดียวกับการปฏิรูปของรัชกาลที่ 5 ของไทย แต่ทำไมญี่ปุ่นซึ่งมีพื้นที่ราว 72% ของไทย แต่มีประชากรมากกว่าไทยราวเท่าตัว จึงปฏิรูปได้ผลจริงจังเร็วกว่าและมากกว่าไทยมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศเจ้าขุนมูลนายที่มีระบบเศรษฐกิจการเมือง วัฒนธรรม ที่เผด็จการจารีตนิยม ประเพณีนิยม ทหารนิยม ฯลฯ ที่ล้าหลังเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปทุนนิยมอุตสาหกรรมคล้ายๆ กับไทยและประเทศอื่นๆ ทั้งเรื่องการแบ่งชนชั้นวรรณะยังเข้มงวดกว่าไทยด้วย
แม้พอจะมองเห็นกันว่ากิจปฏิบัติของชนชาวญี่ปุ่นนั้นคือสิ่งที่ทำให้ประเทศนี้มีความเจริญก้าวหน้าไปสู่ระดับโลก เช่นในเรื่องความมีวินัยของคนในชาติที่ชัดก็คือ การเข้าคิวไม่เบียดเสียดแย่งกันเหมือนประเทศอื่นๆ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม สมควรที่จะนำไปเป็นแบบอย่าง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีการปลูกฝังอะไรอีกหลายอย่างตั้งแต่วัยเด็ก จนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นผงาดขึ้นมาติดอันดับทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจก้าวหน้าระดับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับที่ 3 รองจากสหรัฐฯและจีน
มีข้อมูลที่บ่งบอกว่า การที่ญี่ปุ่นเจริญก้าวหน้าขนาดนั้นได้ก็เพราะมีข้อบัญญัติ 10 ประการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจยิ่ง ซึ่งผมขอลอกมาให้ได้รับรู้กัน
- ญี่ปุ่นสอนตั้งแต่ชั้น ประถม 1 ถึง ประถม 6 วิชาหนึ่ง ชื่อว่า “ทางสู่จริยธรรม” เพื่อเผชิญชีวิตในอนาคต
- ไม่มีการสอบตก ตั้งแต่ประถม 1 ถึง มัธยมต้น เนื่องจากจุดประสงค์คือ การอบรม ปลูกฝังแนวคิด และเสริมสร้างบุคลิกภาพ ไม่เพียงแต่ให้ความรู้และคำสั่ง
- ถึงแม้เป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่พวกเขาไม่มีคนใช้ พ่อและแม่รับผิดชอบภายในบ้านและลูกๆ
- เด็กๆ ทำความสะอาด ที่โรงเรียนทุกวัน 15 นาที พร้อมๆ กับคุณครู ซึ่งทำให้เกิดความเรียบง่าย และมีนิสัยรักความสะอาด
- เด็กญี่ปุ่น จะแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร จึงทำให้ติดนิสัยรักสุขภาพตั้งแต่เยาว์วัย
- ผู้อำนวยการโรงเรียนจะกินอาหารของนักเรียนก่อน เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เพื่อความแน่ใจและความปลอดภัยของนักเรียน พวกเขาตระหนักอยู่เสมอว่า เด็กๆ เป็นอนาคตของญี่ปุ่นที่พวกเขาต้องปกป้อง
- พนักงานทำความสะอาด พวกเขาเรียกกันว่า “นายช่างสุขภาพ” เงินเดือน 5,000 ถึง 8,000 ดอลล่าร์อเมริกา ตามระดับของการทดสอบและสัมภาษณ์
- ห้ามใช้โทรศัพท์บนรถไฟ ภัตตาคาร สถานที่ปกปิด ที่ต้องการความเงียบ เป็นมาตรฐานที่ปฏิบัติใช้กันเคร่งครัดในบริการสาธารณะว่าห้ามใช้เสียง…ที่ทุกคนต้องรู้จัก “มารยาท”
- ถ้าคุณไปร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ จะสังเกตว่าทุกคนเอาอาหารที่จำเป็นเท่านั้น จะไม่พบอาหารเหลือในจานเลย
- โดยเฉลี่ยแล้ว ภายในเวลา 1 ปี รถไฟจะช้ากว่ากำหนด 7 วินาทีเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นรู้ถึงคุณค่าของเวลา เคร่งครัด ตรงต่อเวลาวินาที และนาที
เมื่อพลเมืองมีคุณภาพ มีการศึกษาดี มีมารยาททางสังคม ใครต่อใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงได้เห็นสภาพบ้านเมืองเขาจึงสะอาดสะอ้าน ผู้คนมีอัธยาศัยใจคอดี ไม่มั่วซั่ว ให้การต้อนรับขับสู้ด้วยความเป็นมิตร ไม่ต้องระแวดระวังโจรผู้ร้ายฉกกระเป๋า ล้วงกระเป๋า ผิดกับประเทศทางตะวันตกที่นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังตัวทุกฝีก้าวทั้งๆที่คุยโวโอ้อวดว่ามีความเจริญก้าวหน้าด้านวัฒนธรรมเหนือกว่าชนชาติอื่นๆ ทีหลังอย่ามาดูแคลนคนชาติเอเชียก็แล้วกัน เสียดายอยู่อย่างที่ผู้นำญี่ปุ่นบางคนที่ต้องการก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่เพื่อครอบครองโลกอย่างสหรัฐฯและชาติยุโรป ด้วยการกระโจนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1-2 จนประสบความพ่ายแพ้ยับเยิน
รัฐบาลชุดปัจจุบันดูท่าว่าจะเดินเข้าไปสู่วังวนนั้นอีกครั้ง ด้วยการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยเรื่องการทหารและการเข้าสู่สงคราม ท่ามกลางเสียงคัดค้านของชาวญี่ปุ่น แต่ก็ผ่านสภาไปได้เป็นการส่งสัญญาณว่า อีกไม่นานโลกจะต้องเผชิญภาวะสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นได้.
สนับสนุนโดย dragontiger888.com