ไปรู้จักกับ ‘Canelé’ (คานาเล) หนึ่งในขนมสัญชาติฝรั่งเศสที่มีความพิลึกพิลั่นอยู่มากในแง่ของประวัติศาสตร์ซึ่งมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนมากนัก รู้เพียงว่าตำนานเล่าขานของขนมชนิดนี้เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ที่สำนักชีชื่อ Couvent des Annonciades แห่งเมืองบอร์กโดซ์ อดีตเมืองท่าสำคัญของแคว้นอากีแตน นักดื่มไวน์ทั่วโลกได้ยินคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี
แน่นอนว่าในการผลิตไวน์ย่อมต้องใช้ไข่ขาวเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการเบลนด์ ‘ไข่แดง’ ที่ถูกแยกออกจึงต้องทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ แม่ชีในสำนักจึงได้คิดค้นเมนูขนมจากเจ้าก้อนไข่แดงที่เหลือ เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้มีฐานะยากจนในเมืองแห่งนี้ ระหว่างทางพี่อู๋เล่าต่อว่าหลายร้อยปีถัดมาสำนักชีได้ปิดตัวลงพร้อมกับสูตรขนมซึ่งสูญหายไปตลอดกาล
จนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 18 พ่อครัวขนมอบของเมืองได้ค้นพบสูตรขนมโบราณชนิดนี้โดยบังเอิญ คานาเลจึงกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง หลายครอบครัวในบอร์กโดซ์มีสูตรคานาเลเป็นของแต่ละตระกูลและสืบทอดกันมายาวนานถึงปัจจุบัน เรื่องเล่าจบลงตัดภาพกลับมาที่เรากำลังยืนอยู่ในครัว พร้อมกับพี่อู๋ที่กำลังเตรียมอบขนมและบอกเล่าเรื่องราวความพิถีพิถันขณะกำลังบรรจงเทแป้งลงแม่พิมพ์ ก่อนจะนำเข้าอบและกลายเป็นเจ้าคานาเล่ให้เราได้ลองลิ้มชิมรสกันเป็นขวัญตา
แม้ส่วนผสมมีเพียงไม่กี่ชนิดแต่กระบวนการหลังจากนั้นซับซ้อนกว่าที่เห็น โดยส่วนผสมทั้งหมดใช้วิธีการตีด้วยมือ เกิดจากการฝึกฝนทักษะและน้ำหนักมือทำให้เนื้อแป้งออกมาพอดิบพอดี การใช้ไข่แดง แป้ง และน้ำตาล ตามด้วยนมอุ่นผสมเนยแท้กับวนิลลา แล้วค่อยบรรจงตีผสมในขณะที่อุณภูมิยังร้อนจนได้เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อได้แป้งแล้วยังไม่สามารถใช้งานในทันที ต้องพักแป้งไว้ 1-2 คืนให้แป้งคานาเล่เซ็ทตัวเนียนนุ่มดุจใยไหม
คานาเลจะไม่ใช่คานาเลเลยถ้าไม่ได้เติม ‘เหล้ารัม’ เพื่อเพิ่มกลิ่น คานาเลสูตรต้นตำหรับจึงประกอบไปด้วยรัม 2 ชนิดเพื่อดึงสมดุลของตัวขนมออกมานั่นคือ Dark Rum ที่ช่วยเรื่องกลิ่น ส่วน Spiced Rum ซึ่งใช้ระยะเวลาในการหมักนานกว่าและมีการผสมเครื่องเทศลงไป เพื่อให้ได้รสชาติหลากหลายมิติยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งจุดเด่นของคานาเลเห็นทีคงหนีไม่พ้นแม่พิมพ์ การใช้พิมพ์แบบดั้งเดิมนั้นเป็นทองแดงล้วน เมื่ออยู่ในเตาอบเพียงแค่ 10 วินาทีก็พร้อมใช้งาน แต่นั่นก็ต้องใช้ ‘ขี้ผึ้ง’ ในการทาเคลือบพิมพ์เพื่อไม่ให้ขนมติดแม่พิมพ์หรือไหม้ ข้อดีคือทำให้ขนมมีความกรอบเป็นเวลานานเนื่องจากขี้ผึ้งได้เข้ามาเคลือบผิวภายนอกทำให้อากาศไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ แต่ข้อเสียยังมีอยู่บ้างเพราะหากทิ้งไว้นานขนมจะมีความเหนียว พี่อู๋จึงเลือกใช้พิมพ์ทองแดงเคลือบเทปล่อนที่มีระยะเวลาการใช้งานเพียง 3 เดือนก็ต้องเปลี่ยนใหม่เนื่องจากเสื่อมสภาพ เพราะถ้ายังใช้ต่อขนมที่ได้จะมีคุณภาพต่ำลง และเปลี่ยนมาใช้น้ำมันคาโนลาผสมเนยในการเคลือบแม่พิมพ์แทนวิธีการแบบดั้งเดิมที่เสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดแล้วยังต้องใช้เวลานาน
ร้านแนะนำ Canelé แสนอร่อย
ร้านกาแฟในบรรยากาศสีขาวมินิมัล แถมยังเป็นดีไซน์ช็อปที่นำสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ดังอย่างเช่นกระเป๋า Freitag มารวมไว้ให้เลือกซื้อกันได้ โดยนอกจากเครื่องดื่มกาแฟและงานดีไซน์ต่างๆ ร้านนี้ก็มีเมนูขนม “คานาเล่ไซส์มินิ” ให้สั่งมากินคู่กับกาแฟได้เช่นกัน โดยขนมจะมาเป็นชิ้นพอดีคำ มีท็อปปิ้งให้เลือก 4 รสชาติ คือ วานิลลา สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม และกาแฟ ในราคา 50 บาท/2 ชิ้น
เบเกอรี่โฮมเมดร้านนี้มีคานาเล่แบบดั้งเดิมให้ลอง เพราะร้านผสม ดาร์ก รัม (dark ru,) เข้าไปด้วย โดยขายเป็นกล่องละ 6 ชิ้น 390 บาท หากใครอยากเข้าไปรับเองก็สามารถสั่งและนัดเวลากับร้านได้เลย หรือจะส่งผ่านแมสเซนเจอร์ก็ได้เช่นกัน
คาเฟ่บรรยากาศเกาหลีที่เราว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ทำให้คานาเล่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดย Entree ทำเมนูซิกเนเจอร์ของร้านได้ดีเลย ให้เปลือกนอกกรอบสีสวย ส่วนเนื้อด้านในนุ่ม หวานหอมกำลังดี และร้านจะใช้วานิลลาแท้จากฝัก
โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 9 รสชาติ ราคาเริ่มต้น 90-105 บาท เช่น ออริจินัล, โฮจิฉะ, เอิร์ลเกรย์, ชาไทย หรือ ครันชี่ช็อกโกแลต อีกทั้งตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 อีกด้วย
สนับสนุนโดย ufa911.co